.. Baker_s Journey 26) : Baker_s Story again…and again !!
-1-
.
ฉันยอมรับว่าห่างจากการเขียนบันทึกออนไลน์ไปนานมาก
2 เดือน สำหรับฉัน ถือว่านานพอสมควร จริงๆเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ถ้าไม่ได้ย้อนกลับมาดูหน้าบันทึกเก่า โดยเฉพาะบันทึกล่าสุด ฉันก็ไม่รู้สึกเท่าไรว่ามันนาน…บางทีเวลาผ่านไปไวเหมือนลมพัดผ่าน เหมือนฝัน เหมือนมีอะไรผ่านเข้ามา แค่แว๊บๆ
สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เช่นกัน เวลาส่วนใหญ่คือเวลาที่ให้กับการทำงาน กว่าจะเข้านอน คนอื่นเขาก็นอนกันหมดแล้ว นอนไม่กี่ชั่วโมง หลับก็หลับเป็นตาย บางทีแม่ถามว่าได้ยินเสียงแม่เปิดประตู หรือทำครัวบ้างไหม ฉันตอบว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มันก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็ถือว่าร่างกายเราได้พัก
ปีกว่าที่ฉันเริ่มทำอาชีพใหม่…ใช้คำว่า ‘ใหม่’ เพราะมันเป็นเวลาไม่นานนัก ยังไม่เรียกว่าเข้าที่เข้าทาง แม้ว่าร้านของเรา สินค้าของเราเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ในจังหวัดเล็กๆ
ร้านที่เปิดไม่ได้อยู่ในทำเลตลาด ไม่ได้ตรงตามทฤษฎี 4 Pของการตลาด ทุกคนรวมทั้งเราสองคนงุนงงสงสัยว่า เป็นเพราะอะไร เรื่องบางเรื่องบางครั้งมันก็ไม่มีเหตุผลรองรับ แต่ฉันเชื่อในเรื่องของการอัศจรรย์
-2-
เราทำงานกันเป็นบ้าเป็นหลัง บอกตัวเองเสมอว่าไม่ได้โลภ เพราะถ้าเทียบกับคนอื่น หรือร้านอื่นๆ เราไมได้ทำในปริมาณมาก ฉันก็ไม่รู้ว่า เค้กไม่เกิน 10 ก้อนต่อวัน สำหรับคนอื่น มันเป็นจำนวนที่มากหรือน้อย ฉันเฝ้างุนงงสงสัยว่า คนอื่นๆเขาทำเค้กกันอย่างไร เขาเอาเวลาที่ไหนไปพักผ่อนกัน กระนั้นก็ยังไม่ได้คำตอบ
เราทำงาน….ทำงานและทำงาน การทำงานของเรานั้น ต่างจากการทำงานในร้านของเราที่เคยเปิดที่จังหวัดท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ซึ่งปริมาณงานนั้นต่างกันสุดขั้ว เดิมเรากำหนดเวลาเปิดร้านของเราไว้ทุกวัน จนกระทั่งเริ่มศักราชใหม่ ขอเวลาหยุดพักสัปดาห์ละหนึ่งวัน และตามแต่โอกาสที่เหมาะสม แต่เวลาหนึ่งวันของเรานั้นคือ วันอังคาร มีผู้คนเวียนถามกันมากมาย ว่าทำไมต้องเป็นวันอังคาร…ถามจนเลิกถามไปแล้ว
ปริมาณงานของเรา มากขึ้น และมากขึ้น แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวของพวกเรา ที่ทำอะไรแล้วต้องทำให้ดีที่สุด เมื่อเรามีสถานะเป็นลูกค้า เราย่อมต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งแน่นอน ลูกค้าของเราย่อมคิดไม่ต่างกัน เมื่อความคิดยังเหมือนเดิม เราจึงทุ่มเทให้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า…ร่างกายเราเหนื่อย ล้า
เราเคยบอกว่า วันอาทิตย์ เราต้องไปโบสถ์ จำเป็นต้องเปิดร้านช่วงบ่าย แต่แล้ว เราก็ไม่ได้ไป ห่างโบสถ์หนึ่งสัปดาห์ สองสัปดาห์ จนกระทั่งเป็นเดือน และหลายเดือน
คืนวันศุกร์..เหนื่อยมาก แทบหมดแรง แต่จำเป็นต้องทำงาน ฉันบอกตัวเองว่า วันอาทิตย์นี้ขอหยุดและไปโบสถ์ วันอีสเตอร์…ไม่ไปไม่ได้แล้ว…ดังนั้นฉันจำเป็นต้องปิดร้านอีกหนึ่งวัน “อิ่มเอม” คือความรู้สึกที่ได้หลังจากนั้น ไม่น่าเชื่อว่า ประสิทธิภาพการทำงานของพวกเรานั้นเพิ่มขึ้น อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน งานสำเร็จเสร็จสิ้นตามที่ตั้งใจ
มีคนถามฉันหลายคนเรื่องการทำขนม จริงๆ ทั้งรสชาติ ทั้งเรี่ยวแรงฉันได้มาจากการอธิษฐานขอพรจากพระเจ้า ก่อนที่ฉันจะเริ่มงานทุกครั้ง
-3-
-4-
เมื่อถึงตอนนี้ ฉันก็กำลังพิจารณาและทบทวนอีกหลายรอบเกี่ยวกับเวลาที่ฉันกำลังมีปัญหา จะทำเค้กในปริมาณเท่าไรที่จะเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าแล้วไม่เบียดเวลาพักผ่อนจนเกินไปนัก จะตัดเค้กยังไงให้ทันต่อเวลาที่ลูกค้ามารอซื้อแล้วไม่หงุดหงิด จะเอาเวลาที่ไหนดูแลบ้าน ดูแลแม่ ฯลฯ โดยที่ฉันมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ และท้ายที่สุด ฉันมั่นใจว่า คงมีหนทางที่ดีที่สุดที่พระเจ้าจะประทานให้กับฉันแน่ๆ
เหมือนกับพระพรที่หลั่งไหลมาหาฉันในทุกๆวัน
ป.ล.ใครที่จะเปิดร้านเบเกอรี โปรดคิดอีกครั้งหนึ่ง !!!
May 6th, 2011 at 9:01 pm
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาฝากข้อความเป็นกำลังใจนะคะ ยืนยันว่าจะพยายามต่อไป และมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพเป็นอันดับแรกเลยค่ะ
May 1st, 2011 at 5:33 pm
ขอโททษค่ะเมย์ ที่แวะเข้ามาช้า
ดอกไม้ตอนนี้สวยจัง
ภาพที่ถ่ายก็คมชัด
ได้ยินว่าพี่จุ๊รักล้านนามาก จะขึ้นน่านสำรวจป่าหน้าฝนกระมัง
ขอเอาลิงค์เรื่องราว ดอกไม้ เสียงบ่นไปฝากให้คุณจุ๊นะคะ
คิดถึงเมย์นะคะ ฝากความรักถึงทุกคนทางนั้น รวมคุณแม่ค่ะ
P’ athenaz
xxx
April 28th, 2011 at 10:19 am
ได้นั่งอ่านบันทึกของพี่เมย์แร้วก็สะท้อนความคิดของตัวเองออกมาได้หลายอย่างที่เราเหมือนกัน สิ่งที่อัญเป็นห่วงพี่เมย์ก็เรื่องของสุขภาพเพราะรู้ว่าพี่เมย์มีเวลาพักผ่อนน้อย แต่ก็อย่างที่พี่เมย์บอกไว้นะคะว่า ไม่ได้โลภที่ต้องทำงานหนัก แต่อัญคิดว่ามันเป็นเรื่องของความสุขใจในการทำและเป็นความรับผิดชอบต่อคุณลูกค้าที่น่ารักมากกว่า จุดนี้อัญเข้าใจดีค่ะ แต่ก็อยากฝากให้พี่เมย์ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ ^^
April 27th, 2011 at 10:08 pm
ขอชื่นชมในความสำเร็จ ดีใจด้วยเค็กที่ทำได้รับความนิยมอย่างรวจเร็ว การทำงานย่อมมีปัญหาบ้างเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่ได้เรียนรู้จะเกิดทักษะและจะรู้หนทางในการปรับปรุงแก้ไขเอง อย่างน้อยในตอนนี้ให้มีความภาคภุมิใจในความสำเร็จนั้น และยึดมั่นในสิ่งที่ได้ตั้งใจไว้ตลอดไป
ตั้งใจทำสิ่งที่ดีมีคุณค่า ย่อมนำพาความสำเร็จให้เห็นเป็นแก่นสาร หากลดค่าสิ่งที่ทำเพราะด้วยแรงเสียดทาน อีกไม่นานสิ่งที่ทำที่ว่าดีไม่มีเลย
ด้วยความปราถนาดี อาต๋อย
April 27th, 2011 at 7:51 pm
พี่ยุ้ยคะ ถ้าหมุนเร็วแต่ยังช้ากว่าที่เคยหมุนก็ถือว่าโอเคแล้วน่า
บางทีหมุนช้าไปมันชิลล์เกินก็น่าเบื่อนะ อาจจะขาดแรงขับเคลื่อนได้ อิอิ
ปล.อยากไปกินเค้กมากกกก ถ้าได้ไปเด๋วจะโทรจองนะคะ ทั้งเค้กทั้งเจ้าบ้านเรยยย ^^
April 27th, 2011 at 11:06 am
สวัสดีคุณเมย์
หายไปนาน เหนื่อยนักก็พักบ้าง
ร่างกายแข็งแรง จิตใจสดชื่น เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีด้วย
สู้สู้
April 27th, 2011 at 5:22 am
อ่านแล้วทำให้นึกถึงเรื่อง เจค๊อบ คนทำขนมปัง ครับ อิอิ
April 26th, 2011 at 6:03 pm
สวัสดีค่ะคุณเมย์
ก่อนอื่นของแสดงความยินดีกับทั้งสองคนนะค่ะ แหม่มห่างหายไปนานกับfacebook สองวันก่อนกลับมาดูโอโห้คุณเมย์ทำเค้กวันละ10ก้อนไม่พอขาย ลูกค้าเยอะแยะ เห็นแล้วปลื้มใจแทน และอิจฉาคนแพร่ที่ได้กินเค้กอร่อยๆ แต่เห็นท่าจะไม่ค่อยได้พักผ่อนแน่ๆ ยังไงก็รักษาสุขภาพนะค่ะ ให้ความสุขกับคนอื่นแล้วก็ต้องอย่าลืมให้ความสุขกับตัวเองและคนที่เรารักด้วยนะค่ะ…
แหม่ม
April 26th, 2011 at 9:14 am
จงสำนึกในพระคุณพระเจ้าตลอดเวลา เพราะพระเจ้าทรงอวยพระพรให้เรามากมายเหลือคณา จงสนิทอยู่กับพระิงค์ ให้เวลากับพระิองค์ในการไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์เพื่อนมัสการพระองค์ สรรเสริญพระองค์และอธิษฐานต่อพระองค์ด้วยความเชื่อและศรัทธาอย่างจริงใจ แล้วงานทุกอย่างจะสำเร็จตามที่ใจเราปรารถนาทุกประการ ขอพระเจ้าทรงอวยพระพร
April 26th, 2011 at 8:54 am
จริงๆ ทำขนม มีความสุขนะ เวลาหน้าตาและรสชาติขนมออกมาดี และวันที่คิดสูตร ขนมใหม่ๆได้ …ขอบคุณมากนะตริม ตริมล่ะ สบายดีมั้ย
คิดถึงๆ
April 26th, 2011 at 3:26 am
สู้นะคนเก่งทั้งสอง ความสุขเท่านั้น
April 26th, 2011 at 12:24 am
แสดงว่าตอนนี้ชีวิตพี่หมุนเร็วใช่ไหมกล้วย ^-^
April 25th, 2011 at 11:25 pm
ชีวิตหมุนช้ามันหายาก.. เพราะเราเคยสัมผัสกับชีวิตหมุนเร็วมาก่อน
ค่อยๆเป็น ค่อยๆไปนะคะพี่เมย์ เอาใจช่วยค่า ヾ(@⌒ー⌒@)ノ
April 25th, 2011 at 11:12 pm
ปุย ตอนนี้พยายามปรับอยู่ แต่ไม่อยากให้เป็นภาระลูกค้าน่ะ เพราะ บางทีมีกระแสว่า พวกเราติสต์แตก หรือไม่ก็ อาร์ตตัวแม่ อะไรประมาณนี้ ..มีลูกค้าน่ารักๆ อย่างปุย และคนอื่นๆอีกหลายคน ก็น่าชื่นใจนะ มีแรงฮึด ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณหลายๆ ที่เป็นแรงใจให้
ป.ล.เมื่อวานที่คุยกันเรื่องร้านกาแฟ ที่โอ และไม่โอ เปลี่ยนใจแล้ว เพราะร้านที่บอกว่า โอ เปลี่ยนคนชง รสชาติเปลี่ยน
April 25th, 2011 at 10:59 pm
การทำงานต้องทำให้พอดี..ความพอดีของแต่ละคนแตกต่างกัน…ดังนั้นปริมาณที่ที่ร้านนี้ต้องทำ…จึงขึ้นอยู่กับความรู้สึกพอดีของเจ้าของที่ชื่อเมย์และยุ้ย…ว่าความพอดีคือการบาลานซ์ชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัว..แต่เชื่อว่าพี่ทั้งสองสามารถบาลานซ์มันได้อย่างพอดี…