แล้วก็ผ่านไป..ไวเหมือนโกหก
เวลาล่วงเลยแต่ไม่ได้ข้ามวัน ผมไม่ถึงกับเมามายแต่ก็ลุ่มหลงในราตรีนั้นพอสมควร…
.
เมื่อวานแดดสวย…
พระอาทิตย์ขึ้นโดยไม่มีเมฆบดบัง น้ำค้างที่เกาะอยู่ตามใบหญ้าริมทางถูกแสงแดดอ่อนๆส่องต้องประกายเป็นสีเงินยวง อากาศมีลมโบกพัดเบาๆ ชักชวนกิ่งก้านใบของต้นไม้ในป่าละเมาะโบกไหวไปตามแลดูเหมือนสาวงามกำลังยกมือน้อยๆโบกมือให้ชายคนรักให้ได้แอบอุ่นยิ้มละมัย
มันเป็นเวลาเช้าของวันเริ่มต้นทำงานวันแรกอย่างเป็นทางการของปีใหม่ที่สดชื่นไม่เบาสำหรับผม
ความจริงปีใหม่มานี้หากไม่นับรวมอาการเป็นหวัดข้ามปีมา ทุกๆวันของผมก็จัดเป็นเช้าที่อบอุ่นและสดใสแม้จะตื่นสายกว่าปกติเพราะ มัวแต่ ….อยากหลับตาอยู่อย่างนั้น ทำอยู่อย่างนั้น ฝันถึงเธอเรื่อยไป เอ๊ย! ขี้เกียจครอบงำอยู่บ้าง ประสาของคนไม่เคยได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม เต็มตา ติดต่อกันหลายๆวันมานานแล้ว
การนอนคุดคู้อยู่ภายใต้ผ้าห่มหนานุ่ม และ ทำอะไรอย่างไม่เร่งร้อนเกินไปในแต่ละเช้าช่วงหยุด(สันหลัง)ยาวที่ตื่นลืมตามานั้นเป็นความหฤหรรษ์ของผมพอๆกับนอนเอกเขนกดูหนังแผ่นไปทีละเรื่องๆระหว่างที่ไร้เรื่องราว
แม้ว่าความหฤหรรษ์นั้นอาจจะแลกมาซึ่งบางช่วงเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองมีขนงอกยาวตามแขน ขา และ ลำตัวมากขึ้น เดินเหินไม่ตรงมากนัก หัวหนัก หลังพลอยงุ้ม เพราะกังวลกับสันหลังที่วัดขนาดได้ยาวขึ้นก็ตาม …55555 พูดเล่น
จริงๆแล้ว ความหฤหรรษ์ในชั่วเวลาโมงยามที่เดินไปในแต่ละวันที่ผ่านมานั้นผ่านไปอย่างมีค่าและได้อะไรกับตัวมากอย่างที่ใจพึงอยากจะมีได้
ผมมีเวลาจะอยู่ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2551 แม้จะไม่ถึงกับอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ในจำนวนไม่มากไม่น้อยก็เป็นหมู่ญาติทั้งผู้ใหญ่ไล่ไปถึงลูกเด็กเล็กแดงที่อบอุ่นใจเสมอ อยู่แวดล้อมถ้วยชามอาหารและเครื่องดื่ม มือกุมกระป๋องเบียร์สีเขียว ได้แหงนหน้ามองพลุหลากสี พร้อมๆกับเสียงวิ๊ดบึ๊มๆ ใบหน้าเดี๋ยวเปลี่ยนเป็นสีแดง สีดำตามประกายของไฟเย็นที่ประเดี๋ยวลุกโชนแล้วดับมืดลง
เวลาล่วงเลยแต่ไม่ได้ข้ามวัน ผมไม่ถึงกับเมามายแต่ก็ลุ่มหลงในราตรีนั้นพอสมควร…
วันต่อมาผมรู้สึกตัวเองคล้ายกับเป็นญาติที่พลัดพรากจากกันไปนาน นานมากของตระกูลจิราธิวัฒน์ จู่ๆก็ได้กลับเข้าสู่อ้อมกอดของตระกูลโดยอาศัยปานรูปหัวใจที่แก้มก้นด้านซ้ายเป็นใบเบิกทางให้ผมนวยนาดอยู่ในห้างเซ็นทรัลเหมือนกับเป็นเจ้าของยังไงยังงั้น
ห้างฯที่เคยมีคนมากมาย วันขึ้นปีใหม่มีแค่ประปราย…
อีกวันต่อมาผมเริ่มนอกใจกรุงเทพฯ อยากไปสูดอากาศที่ต่างจังหวัดดูบ้าง ไม่นานจากนั้นก็ขับรถไปเลย …ไม่ใช่ซิ ระยอง เป็นเป้าหมายโดยถือโอกาสไปกราบขอพรปีใหม่ญาติผู้ใหญ่ หาอาหารอร่อยในเมืองรับประทาน สุดท้ายไปจบลงที่ไปนั่งมองขอบฟ้าไกล หาดทราย สายลม และ ทะเล ….เพ้อรำพันที่หาดแม่รำพึงตามเคย
ตกค่ำรูปแบบชีวิตก็กลับมาเหมือนเดิม…นั่งมองแสงสี และ เมืองหลวง แทน ขอบฟ้า และ น้ำทะเล
ค่ำคืนนั้นผมอยู่กับแบดแมน อัศวินแห่งรัตติกาล …
ถัดอีกวัน ผมมีโปรแกรมต้องเดินทางไกลกะทันหันตามสมองที่สั่งงานอย่างฉับพลัน… นั่นก็คือไปเมืองโบราณที่ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของไปไปทางใต้แค่ 18 กิโลเมตรแต่ที่ผ่านมาไม่เคยไปถึงเลยสักครั้ง
ที่นั่น วันนั้น ผมเหมือนคนที่หลุดเข้าไปในโลกอีกใบนึง โลกที่น่าจะเหมาะกับตัวเองอย่างบอกไม่ถูก คนแก่ เมืองเก่า 55555
วันเวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหก… วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมก็ต้องกลับเข้าประจำการทำการทำงานเหมือนเดิม บอกตัวเองว่า กงล้อแห่งอาชีพได้เริ่มต้นหมุนของมันอีกครั้งโดยจะมีสิ่งละอันพันความอบอุ่นที่ตลบอบอวลอยู่ในใจในหลายวันที่ผ่านมาเป็นแรงผลักดันที่สำคัญ…
******
ปล.
สวัสดีปีใหม่ สุข สดใส สดชื่น อีกครั้งนะครับทุกๆคน
ขอบคุณมากๆครับสำหรับส.ค.ส. และ คำอวยพร แต่ขออภัยที่ผมไม่ได้เข้ามาตอบเลยในหลายวันที่ผ่านมา วันนี้ได้กลับเข้ามาบ้านแล้ว ได้อ่านแล้ว และ ซาบซึ้งใจยิ่งขอได้โปรดรับรู้ด้วยว่า ต่างๆทั้งหลายที่ท่านมอบมา นี่ก็นับเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ปลาทองตัวนี้แหวกว่ายไปเรื่อยๆ…อย่างมีความสุข:)
Show show