๕. อยู่คนเดียวจงระวังความคิด อยู่กับมิตรจงระวังวาจา อยู่กับมารดาบิดาจงระวังการปฏิบัติตน
ถ้าคิดไม่ระวังจะกลายเป็นคิดฟุ้งซ่าน ถ้าพูดไม่ระวังมิตรจะเข้าใจผิด ถ้าปฏิบัติไม่ดีต่อมารดาบิดาจะ
เป็นการสร้างบาปให้ตนเอง
๑๐. ดูข่าวการเมืองยิ่งดูยิ่งวุ่นวายยิ่งดูยิ่งฟุ้งซ่าน แต่หากกลับมาดูใจของตนอย่างมีสติ รู้เท่าทันทุก
เรื่องที่คิด ทุกจิตที่ทำ ทุกคำที่พูด ทุกครั้งที่เคลื่อนไหว ความทุกข์มากมายจะดับลง ดูจิตวันละนิดจิต
แจ่มใส
๑๔. คนไทยไปงานศพแทบทุกเย็นโดยไม่เคยรู้สักนิดว่าวันหนึ่งตัวเราจะเป็นศพ ดังนั้นเราควรฝึกไป
งานศพตัวเองทุกวันด้วยการบอกกับตัวเองว่า ความตายอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก
๑๗. ในตัวเรามีทั้ง ๓ ฤดู เมื่อความโกรธเข้าครอบงำจิต ใจร้อนเป็นไฟดั่งฤดูร้อน เมื่อใดความ
โลภเข้าครอบงำอยากได้ จิตใจก็เพลิดเพลินเหมือนฤดูฝนเย็นฉ่ำ เมื่อใดความหลงเข้าครอบงำจิตใจ
ก็มืดมนไหวสะท้านเหมือนเดินอยู่กลางฤดูหนาว
๒๒. วิกฤตมีเพื่อพิสูจน์ปัญญา ปัญหามีเพื่อพิสูจน์ความสามารถ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตเราล้วนมี
ความหมาย ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นมาอย่างว่างเปล่า ถ้าใช้ปัญญาพิจารณาอย่างลึกซึ้งจะเห็นคุณค่าของทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิต
๒๕. นัยอันลึกล้ำของคำว่าขอบคุณ ขอบคุณความไม่มีที่ทำให้รู้วิธีลุกขึ้นสู้ ขอบคุณความยากจนที่ทำให้เป็นคนมุมานะ ขอบคุณความล้มเหลวที่ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญ
๓๐. อยู่ให้คนเขารัก จากไปให้คนเขาอาลัย ล่วงลับไปให้คนเอ่ยอ้างถึง อยู่ให้คนรักคืออยู่อย่างผู้
ให้ จากไปให้คนอาลัยคือก่อนจากสร้างสรรค์แต่สิ่งมีคุณค่า ล่วงลับไปให้คนระลึกถึงคือ เวลามีชีวิตทำแต่คุณงามความดีจนเป็นที่จดจำ