หนีเมือง ตอน สวรรค์บนดิน(ช้างใต้)
สำหรับฉันแล้ว ความรู้เกี่ยวกับเรื่องยุทธนาวีเกาะช้างนั้นมีติดตัวอยู่น้อยนิดมากๆ
รู้แต่ว่าเป็นการสู้รบระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ก็เข้าเค้าเพราะฉันก็ไทยและทีทีก็ฝรั่งเศส
ประเด็นหาเรื่องเที่ยวในวันนี้จึงเกี่ยวกับการตามหาอนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง
ซึ่งฉันลองถามชาวเกาะดู ก็ยังไม่มีใครคนไหนตอบได้ตรงเป๊ะนักว่า สถานที่ตั้งนั้นอยู่ที่ใด
บ้างก็ว่าอยู่อีกฝั่งทะเล คือฝั่งท่าเรือเฟอรี่ที่เราข้ามมาจากเมืองตราด บ้างก็ว่าอยู่ที่เกาะนี่แหละ
แต่ยังไม่เคยไปซักทีเลยบอกไม่ถูกว่าอยู่ตรงไหน .. เรา อืมม จริงๆ ควรจะบอกว่าฉันคนเดียว
จึงตัดสินใจว่า หากงั้นเราก็ลองตามหาอนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้างกันดีกว่า เพราะไหนๆ
เราก็มีโอกาสได้มาอยู่ในสถานที่จริง และเราก็มีเวลาเหลือเฟือที่จะหาให้พบ
.
กางแผนที่ออกดูแล้ว ฉันเห็นวาเราน่าจะไปตั้งต้นกันที่บริเวณบ้านเขาสลักเพชร
ซึ่งอยู่ทางด้านเกาะช้างใต้ แล้วค่อยเดินทางต่อไปยัง long beach ชายหาดที่ว่ากันว่าสวยที่สุด
ของเกาะช้าง จากนั้นเราค่อยปะติดปะต่อเส้นทางกันไปให้ถึงอนุสรณ์สถาน ฯ
ดูจากในแผนที่นั้นระยะทางจากไก่แบ้ไปยังบ้านเขาสลักเพชรตกอยู่ราวๆ 40 กว่ากิโลเมตร
ซึ่งถ้าเป็นถนนทางตรงราบเรียบปกติธรรมดา ใช้เวลาราวๆ ชั่วโมงก็น่าจะถึง หากแต่เส้นทาง
บนเกาะช้างดั่งฉันเคยเล่าไว้นั้นเป็นเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขาลงเขาซึ่งมีความสูงชัน
ลดหลั่นไปตามทางวกวน ฉันกะในใจว่าเราอาจจะต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงในการเดินทาง
ด้วยฟีโน่น้อย
จากไก่แบ้เรามุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่จะกลับไปยังท่าเรือเฟอรี่ของเกาะ ผ่านท่าเรือ
และมุ่งตรงลงไปทางเกาะฝั่งใต้ ภูมิประเทศของเกาะช้างใต้นั้นด้านหนึ่งติดกับทะเล อีกด้านติดภูเขา
เป็นป่าสมบูรณ์ที่ฉันสัมผัสความชื้นของสภาพอากาศได้จากความเย็นบนผิวหนังตัวเอง
เมื่อเราขี่รถผ่านเข้าไปบริเวณยอดเขาของที่นี่จะมีหมอกปกคลุมและท้องฟ้าฉ่ำฝนอยู่ตลอดเวลา
เสียจนฉันกังวลว่าเราจะสามารถไปได้ถึงที่หมายก่อนฝนจะลงหรือไม่ อีกทั้งเกาะช้างฝั่งใต้นี้
ดูจะเป็นแหล่งชุมชนพักอาศัยของชาวเกาะมากกว่าจะเป็นแหล่งสำหรับนักท่องเที่ยว
โรงแรม ร้านอาหารต่างๆ จึงมีค่อนข้างบางตา อีกทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลเกาะช้าง
และสถานีตำรวจอีกด้วย
ถึงบ้านสลักเพชร เราเลี้ยวรถไปตามป้ายบอกทางซึ่งรวมถึงชื่อของอนุสรณ์สถาน ฯ
ซึ่งแสดงไว้บนป้ายนั้นด้วยที่ทำให้เราค่อนข้างมั่นใจว่าเรามาถูกทางแล้ว เมื่อเลี้ยวรถ
เข้าไปตามเส้นทางนั้นแล้วฉันก็สังเกตว่าผิวถนนนั้นเปลี่ยนไป คงจะเพราะไม่ใช่เส้นทาง
สำหรับท่องเที่ยวด้วยกระมัง ถนนจึงเป็นเพียงถนนคอนกรีตแคบๆสองเลนให้รถวิ่งสวนกันได้เท่านั้น
ยิ่งเมื่อเรามุ่งหน้าขึ้นเขาตามเส้นทางที่ถนนนำเราไปแล้ว ยิ่งพบว่าถนนเริ่มจะแย่มากขึ้นๆ ทุกที
ทั้งไม่มีไฟถนน ไม่มีแผงกั้นข้างทาง(ซึ่งน่ากลัวกว่าอีกฝั่งมาก เนื่องจากตัดลงไปเป็นเหวลึกตลอด)
และตลอดเวลาที่เราขี่ฟีโน่น้อยขึ้นไปนั้น ก็ยังไม่มีรถวิ่งสวนเราซักคันเดียว
ใช้เวลาไปนานโขจนเราวิ่งขึ้นเขาไปจนสุดถนนคอนกรีตกลายเป็นถนนดินแดงที่มีหินตะปุ่มตะป่ำ
ตัดลาดลงไปยังหุบที่เรามองไม่เห็นปลายทาง ฉันก็ยังไม่พบวี่แววของอนุสรณ์สถานแต่อย่างใด
ทีทีนั้นอยากจะลองลุยเข้าไปต่อว่าถนนนั้นจะนำพาเราไปที่ใด แต่ฉันสะกิดให้ดูท้องฟ้าแล้วเห็นว่า
เราไม่น่าจะทันฝนที่ใกล้จะเทลงมาเต็มที เราจึงจอดรถกันแถวยอดเขาฝั่งนั้น
วิวจากข้างบนนั้นเมื่อมองลงมายังท้องทะเลกว้างข้างล่าง บอกได้คำเดียวว่า ” สวรรค์แท้ๆ ”
เพราะสวยมาก เป็นวันแรกที่ฉันมาอยู่ที่เกาะช้างแล้วได้เห็นว่าทะเลเป็นสีเขียวใส
โดยผืนน้ำกว้างนั้นไกลสุดลูกหูลูกตา ทีทีชี้ให้ฉันดูว่าเราขี่รถมาจากทางไหน ฉันก็ถึงกับอุทานอยู่ในใจ
ว่าเรามากันไกลมากทีเดียว ซึ่งหากรถเสียหรือน้ำมันหมด ก็คงต้องภาวนาอย่างเดียวว่า
ให้มีใครผ่านมาซักคน
ระหว่างที่กำลังยืนเก็บภาพสวยๆ กันอยู่นั้น สองหนุ่มต่างชาติก็ขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นมาจากถนนดินแดง
นั่น ฉันไม่รอช้า โบกสิคะโบก .. โบกเพื่อที่ถามว่าด้านล่างนั้นมีอะไร สองหนุ่มหยุดรถกึก
บอกว่าข้างล่างนั้นคือ long beach ชายหาดที่สวยที่สุดของเกาะช้าง และอนุสรณ์สถานนั้น
ต้องขี่ไปตามทางนั้นอีกไกลพอควร ทั้งคู่ทิ้งท้ายว่า แต่ไม่แนะนำให้เราลงไป
เพราะฝนกำลังจะลงแล้วเราจะกลับขึ้นมาไม่ได้เนื่องจากถนนลื่นมาก
พวกเขาเองก็รีบกลับขึ้นมาเหมือนกัน
แม้จะรู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถเดินทางไปยังปลายทางที่กำหนดไว้ได้ แต่ความสวยงาม
ของทิวทัศน์บนนั้นก็ทดแทนให้ฉันไม่รู้สึกแย่ได้อย่างดียิ่ง ไม่เสียเที่ยวเพราะฉันอิ่มเอม
ไปกับบรรยากาศมากจริงๆ เมื่อสมควรแก่เวลาและดูท่าฟ้าฝนแล้ว เราจึงกลับลงมาตามเส้นทางเดิม
ซึ่งฉันได้แต่ภาวนาในใจให้ท้องฟ้าช่วยอั้นฝนไว้ก่อนเถอะ เพราะขากลับนี่เองที่ฉันเพิ่งจะสังเกต
เต็มๆ ตาว่าถนนหลายช่วงนั้นมีการพังทลาย และผาด้านขวามือของฉันที่ปรากฎเป็นดินสีแดงใหม่ๆ
นั้นก็น่าจะเพิ่งเกิดจากดินถล่ม
คำภานาของฉันสัมฤทธิ์ผลเพราะเราลงมาทันก่อนฝนจะโปรยปรายละอองลงมา
เราเลี้ยวรถกลับเข้าส้นทางหลักโดยมุ่งตรงไปยังใต้สุดของเกาะช้าง ยังหมู่บ้านประมงบ้านสลักเพชร
ซึ่งยอมรับว่าฉันก็เพิ่งจะรู้จักบ้านสลักเพชรจากในแผนที่ที่หยิบมาจากท่าเรือเฟอรี่นั่นแหละ
โดยที่ฉันไม่มีความแน่ใจว่าจะเหมือนหรือต่างจากบางเบ้าหรือเปล่า
จนกระทั่งฉันเริ่มมองเห็นเรือประมงที่จอดทอดสมออยู่ในทะเลและบริเวณริมสะพานที่ทอดยาว
ออกไปกลางทะเล ฉันก็เกิดความรู้สึกว่าน่าจะต่างจากที่บางเบ้าเพราะกลิ่นไอของหมู่บ้านประมง
ยังอบอวลอยู่ที่บ้านสลักเพชรมากกว่า
สุดท้ายปลายทาง ซึ่งไม่มีถนนให้เราขี่ฟีโน่น้อยต่อไปได้แล้ว เป็นอันว่าสิ้นสุดถนนของเกาะช้าง
กันที่ด้านใต้สุด ณ บ้านสลักเพชร เราแวะรับประทานอาหารกลางวันกันในเวลาประมาณบ่ายสามกว่าๆ
ที่ร้านอาหารตรงท้ายเกาะ ระหว่างรออาหารที่สั่ง เราฆ่าเวลาด้วยการเดินเล่นไปตามกระชังปลา
ของทางร้าน ซึ่งก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูเท่าไหร่นัก เพราะปลาอาจจะกำลังหลับกลางวัน
หรือยังไม่ถึงเวลาโชว์ตัวรับอาหารก็เป็นได้
ฉันยอมรับเลยว่าทะเลทางด้านใต้ของเกาะช้างนี้ มีความสวยสะอาดและใสมากกว่าทะเลทางฝั่ง
ที่เป็นชายหาดท่องเที่ยว หากแต่ทะเลบริเวณนี้ไม่มีชายหาด จึงไม่เป็นที่นิยมสำหรับการพักค้างนัก
แม้ว่าจะมีบังกะโลที่ปลูกยื่นลงไปในทะเลคล้ายๆ กับที่มัลดิฟก็ตาม(ค่าห้องแพงมากค๊าบบบ
ลดราคา 25 % แล้วเหลือประมาณสองพันเก้าต่อคืน) และเพราะความสงบของคลื่นลมบริเวณนี้
อ่าวบริเวณหน้าร้านอาหารที่เราแวะ จึงมีเรือยอร์ชลำงามทอดสมออยู่หลายลำ
อาหารที่ร้านนี้รสชาติเยี่ยมสมราคาที่อาจจะแพงกว่าร้านที่ไวท์ แซนด์ บีช แต่หยวนๆ น่ะ
เพราะวิวดีกว่ากันมากมายนัก ความสดของกุ้งหอยปูปลา ก็ประมาณว่ายกมาทั้งยังดิ้นกระแด่วๆ
ให้เราเลือกกันเลยทีเดียวว่าจะหม่ำเมนูไหน รู้สึกบาปอยู่ไม่น้อย แต่ก็คิดปลอบตัวเองว่ากินเพื่ออยู่สนนราคา + บรรยากาศ + รสชาติให้เต็ม 9 คะแนน ที่ได้ไม่เต็มสิบเพราะบริกรค่อนข้ารบกวน
การรับประทานมากเกินไปในการนำเสนอสินค้าจัดรายการต่างๆของทางราน ทั้งน้ำมันมะพร้าว
ทั้งแพ๊กเกจสปา ฯลฯ
เสร็จสิ้นกับอาหารบนโต๊ะ และนั่งหย่อนใจกันอีกพัก ก่อนเราจะออกเดินทางกลับไปยังไก่แบ้
สาวสก๊อยซ์อย่างฉันก็มีเรื่องให้คิดต่อระหว่างเส้นทางที่กลับว่าแล้วพรุ่งนี้จะไปไหนกันต่อดีล่ะ
ตาร้อนเหลือเกิน..นิ
โป้ง! sazziewไม่รักไม่เลิฟแล่วว..
🙂
สวัสดีค่ะพี่นัท ด้วยความทะมึนของหนูน่ะเหรอคะพี่ 5555555
ตอนหม่ำข้าวเย็นด้วยกันเย็นนี้น่ะค่ะ เขาบอกเขาเห็นภาพผู้ชายในบล็อกหนู .. รูปหล่อนะผู้ชายคนนั้น .. ดูมุขสิคะพี่ 5555
goodnight ค่า ;)))))
สวัสดีค่ะน้อง specter ถ้าเป็นฝั่งหาดท่องเที่ยวถนนดีค่ะน้อง แต่มันจะคดเคี้ยวนิดนึง เราใช้ความเร็วไม่ได้น่ะค่ะ ไม่น่ากลัว แต่ฝั่งทางใต้ที่พี่ไต่เขาขึ้นไป จะน่ากลัวหน่อยเพราะมันเปลี่ยวอย่างนึงอีกอย่างคือสภาพถนนแย่พอควรค่ะ แคบด้วย คดเคี้ยวด้วยแล้วบางช่วงทรุดหายไปเฉยๆ เหลือเลนเดียวเลย 5555
พี่ก็ชอบไปแบบนี้แหละค่ะ เห็นอะไรต่ออะไรละเอียดดีน่ะค่ะ ออกนอกทางที่ไม่ได้แนะนำในแผนที่ก็มี อย่างพี่บอกน่ะค่ะ เหมือนเด็กสองคนหนีออกจากบ้าน วี๊ดว๊ายกระตู้วู้กันใหญ่ 555
ปล.เครื่องออกเที่ยงคืนค่ะ ไปส่งไว้ที่สนามบินเมื่อสองทุ่มนี่ล่ะค่ะ แล้วพี่ก็กลับมาเลยเพราะเขาเริ่มน้ำตาคลอๆ 555 พี่คนใจอ่อน แพ้น้ำตา 5555
รักษาสุขภาพด้วยเช่นกันค่ะน้อง
goodnight ค่า ;)))))
สวัสดีจ๊ะมอร์น ก็มันคันเล็กนี่หว่า 555 แล้วมันตลก ความเชยของฉันไม่เคยขี่รถแบบออโต้ ก็หาใหญ่เลยนะเบรคกับเกียร์ที่เท้ามันอยู่ไหนวะ 555 รถมันอึดดีแต่ซดน้ำมันเปลืองไปหน่อย อย่างไปสลักเพชรนี่เต็มถังเลยหมดพอดีตอนกลับไปถึงไก่แบ้
นี่ขนาดกินสะบัดกันเลยนะ กลับมามีแต่คนบอกว่าดูเหมือนจะผอมลง สงสัยคล้ำขึ้นมั้ง 555
goodnight จ๊ะ ;)))))
มีสาวสก๊อยท์คนงามไปยืนอยู่ตรงนั้น ท้องทะเลหมองไปเลยศศิ จริงน๊ะ
อิจฉาจัง วี๊ดวิ้ว อิอิ
พี่ศศิจ๋า เส้นทางถนนบนเกาะมันลำบากน่ากลัวไหมพี่
พอดีคุยกับแฟนว่าอยากไปแบบนี้บ้างจัง แฟนชอบไปแบบหรูหรา แต่หนูว่ามันไม่ได้อะไรเลยเหมือนนอนเล่นอยู่บ้านบางที่นะพี่อยู่บ้านดีกว่าสบายกว่า ไปทะเลไม่เคยไปแบบนี้เลย เคยแต่ไปทางเหนือแบบลุยๆสนุกมาก
แต่ถ้าเช่ารถขี่ แฟนอ้อนตัวใหญ่ก็จริงแต่ขับรถยังไม่ค่อยมองอะไรนึกจะจอดก็จอดนึกจะเลี้ยวก็เลี้ยว แล้วถ้าไปขี่รถจะไปรอดไหมนี่ แต่ก็อยากไปแบบพี่ศศิบ้างจังคงสนุกดี
แหม..วันนี้เปิดตัวหวานใจซะงั้น น่ารักทั้งคู่เลยนะค่ะ
รอชมบันทึกการเดินทางของพี่ศศิกับหวานใจตอนต่อไปอยู่นะจ๊ะ
ฝนตกอีกแล้วรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
🙂
ปล.แล้วตอนนี้หวานใจกลับแล้วหรือจ๊ะ ( แหม อยากรู้อีกเรา นิสัยไม่ดีจริงๆเลย)
ฟีโน่น้อย–แม่คุณเรียกเสียน่ารักเชียว 555
น่าเสียดายแทนเน๊อะที่ฝนครึ้มมาเชียว ไว้โอกาสหน้าค่อยไปใหม่แล้วกันหล่อน
ไว้ไปเมื่อไหร่จะจุดธูปเชิญมาเป็นไกด์ให้หน่อยนะ
ว่าแต่–เห็นหุ่นเธอแล้วให้นึกหมั่นไส้อยากขว้างไขมันไปแปะจัง อิๆๆ
สวัสดีค่ะน้องกิ๊บซี่ พี่เคยไปทะเลกับเพื่อนแล้วเพื่อนสั่งยำหมูย่าง 555
พวกพี่งี้ โห่ เลย 55555 ไปทะเล อยู่ใกล้แหล่งอาหารทะเลสดๆ
ก็ต้องหม่ำอาหารทะเลสิคะ .. เนอะ
good day ค่า ;)))))
สวัสดีค่ะคุณคัมภีร์ราม ขอบคุณค๊าบบ ปากหวานจริงๆ เลย อิอิ
good day ค่า ;)))))
สวัสดีค่ะพี่เลดี้ ขอบคุณค่ะพี่ หนูอยู่ที่นั่นไม่ได้ใช้เน็ตแต่เขียนลงไดอารี่ไว้น่ะค่ะ
แล้วก็คัดย่อมาจากในไดอารี่อีกที เพราะเขียนแต่ละวันเยอะมาก 555
กลัวเอามาทั้งหมดจะอ่านกันไม่ไหวค่ะพี่ ภาพงามเพราะสภาพภูมิประเทศบ้านเราสวยงามจริงๆ ค่ะ
good day ค่า ;)))))
สวัสดีจ้าป๊อก ถ้าลาได้ 2-3 วันก็ไปได้แล้วจ้า ขับรถไปเอง สามสี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ข้ามเรืออีกแป๊บเดียวเอง
สวยดีป๊อก วัยรุ่นที่บ้านน่าจะชอบนะ มีน้ำตกด้วยนะป๊อก แล้วก็มีปาร์คที่ลากูน่าที่เด็กๆน่าจะชอบน่ะค่ะ
good day จ้า ;)))))
สวัสดีค่ะพี่รัตน์ เกาะช้างทางด้านใต้น่ะค่ะพี่ ถ้าไปถึงแล้วขึ้นมาจากเฟอรี่จะลองขับรถไปทางซ้าย
ที่เป็นเส้นทางลงใต้ของเกาะก่อนก็ได้ค่ะ รถเก๋ง(ยิ่ง 4WD ยิ่งดี)น่าจะสะดวกกว่าน่ะค่ะ
วิวสวยมากๆ ค่ะ คอนเฟิร์ม
good day ค่า ;)))))
สวัสดีค่ะพี่เมย์ อร่อยจริงๆ ค่ะ สดมากด้วย
วันนั้นสั่ง หอยจ๊อปู ยำวุ้นเส้นทะเล กระพงทอดน้ำปลา
ห่อหมกทะเล อร่อยทุกอย่างค่ะ กินกันเกลี้ยงเลยสองคน 555
รำคาญแต่บริกรค่ะ เจ๊าะแจ๊ะมากไป 555 หนูนั่งหม่ำๆ อยู่ก็มาขออนุญาตเอาน้ำมันมะพร้าวทาแขนให้
ถ้าลดการรบกวนระหว่างหม่ำลงไปได้นิดนี่ จะเต็ม 10 เลยค่ะร้านนี้
good day ค่า ;)))))
ไปถึงทะเลได้กินอาหารทะเล จะรู้ว่ารสชาติดีกว่าที่กทม.อีกค่ะ
…สวัสดีครับ…
นางแบบเทห์จัง
คุณศศิ คะ นอกจากเรียงคำได้ดีแล้วยังเก็บภาพได้สวยจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะ
สวัสดีศศิ
เป็นช่วงเวลาที่น่าตามรอยไปเที่ยวจริงๆ
มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา คงต้องร้องเพลงรอ…รอไปก่อน
ตามมารับบรรยากาศค่ะ :))
Now Playing: Beyond The Sea
Free Music Downloads | Free ringtones at EZ-Tracks.com
ซิ่งฟีโน่สนุกไปเลยนะคะ แม่สาวสก๊อยยคนงาม
เห็นภาพแล้วอยากไปจัง ทางใต้ไม่เคยไปเลย เหมือนชีวิตขาดอะไรไปอย่างเนอะ
อาหารที่สลักเพชรอร่อย ยังจำรสชาติได้อยู่เลย แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
🙂