กวีชั้นต่ำ : ไทยทน
..
..
10 เมษายน 2553 ฉันยังอยู่ในช่วงท่องเที่ยวพักผ่อน โดยมีแผนว่าจะกลับกรุงเทพในช่วงที่ผู้คนเริ่มทยอย
ออกจากกรุงเทพ-วันหยุดยาวปีใหม่ไทย บ่ายวันเดียวกันที่เพื่อนจากกรุงเทพเริ่มโทรหา บอกเล่าสถานการณ์
ที่ส่อเค้าว่ากำลังจะรุนแรง .. และทั้งๆ ที่ทำใจไว้ก่อนแล้วว่า ไม่วันใดก็วันหนึ่งความรุนแรงคงจะต้องเกิด
ฉันก็ยังอดห่วงกังวลไม่ได้ว่าจะรุนแรงมากน้อยขนาดไหน
เย็นวันเดียวกัน .. แม้จะกังวลเรื่องสถานการณ์ในกรุงเทพ แต่ก็จำเป็นต้องสวมบทสดชื่น
ไปร่วมงานเลี้ยงที่ผู้ร่วมงานล้วนแต่เป็นคนในแวดวงสื่อ ที่มีทั้งนักแสดง ผู้กำกับ ผู้สื่อข่าว
แม้จะไม่ใช่สื่อของบ้านเรา แต่พวกเขาเหล่านี้ก็มีอิทธิพลในการแสดงความคิดเห็น
และพวกเขานี่แหละที่เมื่อพบหน้ากันครั้งแรก ก็เป็นพวกที่บอกกับฉันว่า
I love your King และคำพูดนั้นก็ไม่ใช่สักว่าพูดเพื่อเอาใจคนไทยอย่างฉัน แต่เพราะพวกเขา
ได้อ่าน ได้ดู และได้รับรู้ถึงพระจริยวัตรและพระราชกรณียกิจอันงดงามของในหลวง
จนเกิดความปีติ ซาบซึ้งไม่ต่างอะไรกับพวกเราชาวไทยเลย
ทหารฆ่าประชาชน ทหารฆ่าประชาชน ทหารฆ่าประชาชน…
เสียงแกนนำเสื้อแดงตะโกนผ่านลำโพงซ้ำๆ อยู่แบบนั้น ขัดกับภาพที่ปรากฎอยู่ในคลิปเดียวกัน
ที่แสดงให้เห็นถึงภาพของทหารที่กำลังพยายามช่วยเหลือเพื่อนทหารที่ได้รับบาดเจ็บนอนแน่นิ่ง
อยู่บนพื้นถนน อีกทั้งมีการส่งสัญญานมือจากทางฝ่ายทหารเพื่อขอร้องให้เสื้อแดง
ยุติการโจมตีก่อนเนื่องจากมีทหารได้รับบาดเจ็บ แต่ฝ่ายเสื้อแดงก็ไม่ได้มีใจจะปราณีแต่อย่างใด
ยังคงขว้างระเบิดเพลิงแดงประดิษฐ์เข้าใส่ ซ้ำจากนั้นยังมีการยิงฝ่ายทหารด้วย M79 ตามมาอีกลูก
อันที่จริงแล้ว ฉันว่าจะไม่เขียนถึงพวกเสื้อแดงอีกเพราะรู้สึกไม่ค่อยจรรโลงเท่าไหร่
เนื่องจากโดยรวมการกระทำหรือวาทะ วาระอะไรของกลุ่มคนเสื้อแดง ก็มิได้ยิ่งใหญ่งดงาม
หรือควรแก่การยกย่องอันใดเลย อีกทั้งเป้าหมายหลักเป้าหมายเดียวก็เรื่องเดิมๆ ฟอกผิดเป็นถูก
ล้างสมองผู้คนที่โลกทัศน์แคบให้คล้อยตามไปกับเรื่องที่พวกเขาตัด-ต่อ-แต่ง-เติมขึ้นมา
แล้วมักจะชอบมั่วดึงมวลชนอันไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่าง .. คนกรุงเทพ .. ไปเข้าพวกเสียเฉยๆอย่างนั้น
ที่มักจะถูกนำไปอ้างใช้บนเวทีอยู่เป็นประจำก็เช่น พวกเขาแห่กันไปทางไหน
คนกรุงเทพก็ออกมาให้การสนับสนุนเนืองแน่น
” ถ้าอยากจะทำแบบนี้ ก็ควรที่จะลาออกไปซะ
ไม่ใช่ว่ามาทำตัวเป็นเหลือบให้กองทัพต้องเสียชื่ออยู่แบบนี้ “
ข้างต้นเป็นเสียงของรุ่นน้องเสธ.เหลือบในกองทัพสีเขียว ที่เมื่อฉันถามความคิดเห็นเกี่ยวกับ
สิ่งที่กำลังดำเนินอยู่ภายในกองทัพบก หะแรกเขาก็ย้อนกลับว่าฉันมีความเห็นอย่างไรในฐานะประชาชน
คงจะเคยได้ยินกันมาแล้วเกี่ยวกับคติที่นำมาเป็นชื่อบทความวันนี้
และเชื่อว่าน่าจะมีหลายคนโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเครื่องแบบที่ยึดคตินี้เป็นคติประจำใจ
” ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน ”
สายวานบอกพี่แฮนซ์ผ่าน MSN ว่า “เรื่องนี้มันมีฮีโร่ที่ถูกวางตัวไว้แล้ว ไม่เชื่อพี่คอยดู”
เรื่องนี้ที่ว่าก็เรื่องเขมรจับวิศวกรชาวไทย ตกเย็นทักทายพี่แฮนซ์ผ่าน MSN อีกครั้งว่า
” เป็นไงพี่ เป๊ะ อย่างที่หนูว่าไว้เลยมั้ย “