ความทรงจำดีๆ เกิดขึ้นเสมอที่นี่ “ไต้หวัน” (ตอนจบ)
วันสุดท้ายของการเดินทางแม้ว่าผมจะยังอยู่ที่เมืองไถจงซึ่งอยู่ห่างจากเมืองไทเปประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรถไฟ แต่ไฟลต์บินของผมก็อยู่ช่วงค่ำนั้นทำให้ผมยังพอมีเวลาที่จะไปไหนมาไหนได้อย่างน้อยก็อีกครึ่งวัน
เพื่อนมารับผมที่โรงแรมที่พักช่วงประมาณ 10 โมงครึ่งก่อนจะเราจะออกเดินทางขึ้นไปบนเขานอกเมือง ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที ด้านบนเขาที่ค่อนข้างสูงแต่ยังคงความสมบูรณ์ค่อนข้างมาก เราเดินทางมาเกือบจะถึงจุดสูงสุดของเขา ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหารญี่ปุ่น จุดหมายปลายทางสำหรับมื้ออาหารกลางวันของผมในวันนี้
จากลานจอดรถที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมากสำหรับร้านนี้ แต่ก้าวแรกจากทางเดินเข้าหน้าร้านความคิดทั้งหมดของผมก็เริ่มเปลี่ยนแปลง บรรยากาศญี่ปุ่นมากจากทางเข้าถึงด้านหน้าของร้านที่ถูกสร้างแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ด้านอาคารไม้ที่ถูกรอบด้วยกระจก และศาลาทรงญี่ปุ่นอีก 2 หลังที่อยู่ด้านข้าง
เสียงเพลงจากเครื่องดนตรีคล้ายพิณดูเข้ากับบรรยากาศในตอนนั้นมาก ทั้งอากาศที่ค่อนข้างเย็น การตกแต่งและการประดับร้านด้วยสไตล์ญี่ปุ่นแบบ 100% ดูลงตัวได้อย่างมาก ผมเดินขึ้นไปยังโต๊ะที่ถูกจองไว้ล่วงหน้าบริเวณชั้น 2 ของร้าน
บรรยากาศด้านนอกจากโต๊ะที่ผมนั่ง สุดปลายตาคือฟ้าอีกอยู่อีกด้านหนึ่งของภูเขา เมฆเคลื่อนตัวอยู่ในระดับต่ำกว่าสายตาเพราะร้านอาหารอยู่บนเขาที่ค่อนข้างสูง ป่าไม้ที่ดูเหมือนจะยังสมบูรณ์มากทำให้ผมแทบอยากจะหยุดหายใจซะตรงนั้น
ระหว่างรออาหารที่ถูกสั่งไว้แบบเป็นเชต ผมและเพื่อนใช้เวลาในช่วงระหว่างรอกับการเดินลงมาถ่ายรูปด้านล่าง บรรยากาศจากการตกแต่งร้านทำให้ผมรู้สึกประทับใจร้านอาหารร้านนี้เป็นอย่างมาก ผมใช้เวลาถ่ายรูปในมุมต่างๆ อยู่สักพักใหญ่ก่อนจะกลับขึ้นไปเพื่อรอกินอาหารกลางวัน
อาหารแต่ละจานถูกทยอยขึ้นมาเสิร์ฟ ต้องเรียกว่าเต็มมากครับสำหรับทั้งบรรยากาศ รสชาติอาหาร ปริมาณ และการบริการ ผมให้ 10 คะแนนเต็มสำหรับทุกหัวข้อ
เราใช้เวลาต่อในช่วงหลังอาหารกลางวันกับการกลับเข้าไปในเมือง โดยเพื่อนผมเลือกที่จะพาผมไปแวะอีกวัดหนึ่งที่สำคัญมากในเมืองไถจง วัดที่ดูเหมือนน่าจะเป็นที่รู้จักเฉพาะคนในพื้นที่ดึงดูดคนต่างถิ่นอย่างผมอีกครั้ง ผมเดินไหว้ตามเพื่อนชาวไต้หวันของผมจนครบทุกที่
ใช้เวลาไม่นานกับวัดแห่งนี้ เราต้องเตรียมตัวต่อเพราะผมและเพื่อนจะต้องเดินทางกลับไปยังไทเปอีกครั้ง โดยผมจะนั่งรถไฟความเร็วสูงกลับไปยัง Taoyuan ก่อนจะต้องเปลี่ยนจากรถไฟเป็นขึ้นรถแท็กซี่ต่อไปยังสนามบิน Taoyuan International Airport ในช่วงค่ำ
ผมใช้เวลาประมาณ 45 นาทีกลับการนั่งรถไฟ และต่อรถแท็กซี่อีกประมาณ 15 นาทีจากสถานีรถไฟถึงสนามบินที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล กระบวนการและขั้นตอนต่างๆ สำหรับการเดินทางกลับค่อนข้างจะเรียบง่าย เพียง 15 นาทีหลังจากการโหลดกระเป๋าเดินทาง ผมผ่านเข้าไปถึงยังประตูสำหรับทางออกขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับเมืองไทยอีกอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
ความทรงจำดีๆ สำหรับผมกับการเดินทางมาไต้หวัน แม้ว่าทุกครั้งผมเหมือนจะไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยวในแบบทุกๆ ครั้งที่ผมเดินทาง เนื่องจากการผมอาจจะไม่ได้ไปในที่ที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งผมจะได้ข้อมูลอะไรมากมายสำหรับการนำมาเขียนเรื่องราวของการเดินทาง
เพราะในทุกครั้งที่ผมเดินทางมาไต้หวัน ผมเหมือนกลับกลายเป็นคนในพื้นที่แบบชั่วคราว ได้ใช้ชีวิต ได้กิน ได้สัมผัสบรรยากาศแบบคนพื้นที่เค้าทำกัน นั้นก็เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผมในทุกๆ ครั้งที่เดินทาง
“ไต้หวัน” สำหรับผมเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ผมอยากจะแนะนำสำหรับคนที่คิดอยากจะเดินทาง คนที่ชอบเดินทาง คนที่รักการเดินทาง ให้ไต้หวันเป็นจุดหมายหนึ่งในการเดินทางครับ เพราะไต้หวันไม่ไปไม่รู้จริงๆ ครับ….
Tags: mblog, pdhirapat, taipei, taiwan, Taoyuan, เที่ยวไต้หวัน, ไต้หวัน, ไถจง
This entry was posted on Friday, February 19th, 2016 at 11:03 am and is filed under Travel. You can follow any responses to this entry through the RSS 2.0 feed. Responses are currently closed, but you can trackback from your own site.
Comments are closed.