ปัจฉิมวัย…..วัยที่ผลิบาน
วันหนึ่งฉันเดินตามหลังหญิงชราคนหนึ่งและคิดว่า อีกหน่อยฉันก็คงเข้าสู่วัยชราและมีสภาพเช่นนั้น จนในวันนี้ทุกอย่างเป็นอย่างที่คิดในวันนั้น ฉันเริ่มเข้าสู่ปัจฉิมวัย รูปลักษณ์เริ่มเปลี่ยนเรี่ยวแรงเริ่มถอย แต่ถึงกระนั้นหลาย ๆ คนก็บอกว่าฉันยังดูอ่อนกว่าวัย ฉันคิดว่าคนเราเมื่ออายุ 60 อาจจะมีคนทักว่าต๊าย…ยังไม่แก่นะคะ เมื่ออายุ 70 ก็ยังมีคนทักว่าอร๊าย….ยังไม่แก่นะคะ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งมันก็คงต้องแก่ แม้แต่เซรุ่มพิษงู ครีมรกแกะ เมือกหอยทาก หนวดเต่า เขากระต่าย นอแรด อะไรต่าง ๆ นาๆ ก็คงจะเอาไม่อยู่ นั่นคือความไม่เที่ยงของสังขาร เมื่อมองดูเงาในกระจกฉันรู้สึกถึงความไม่เที่ยงของสังขาร สายน้ำไม่ไหลกลับฉันใดความหนุ่มความสาวก็ไม่อาจกลับมาฉันนั้น หลายคนก็อาจคิดเช่นนั้น จึงปลดปล่อยภาระอันหนักหน่วงด้วยการเลิกวุ่นวายและสาละวนกับสังขาร ทำให้จิตใจสบาย และสงบ (ผิดกับเมื่อสมัยวัยรุ่นที่แม้แต่สิวขึ้นเม็ดเดียว หรือผมเผ้ากระเซิงเป็นรังนกกระจอกก็กังวลจนไม่กล้าออกไปไหน ) เมื่อจิตใจสงบ ก็จะมองเห็นตัวเองมากขึ้น รู้ว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน เหมาะที่จะเรียนอะไร ทำงานแบบไหน ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ การที่มองเห็นโลกมานาน หลายๆ คนที่อยู่ในปัจฉิมวัยจะรู้สึกถึงความเป็นอนิจจังของโลก จึงไม่ค่อยหวือหวาหรือหวาดหวั่นไปกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มากนัก เขาจะมองเห็นความผิดพลาดของตัวเองในอดีต รู้ดีรู้ชั่ว และจะไม่ทำสิ่งที่ผิดพลาดอีก รู้ว่าใครคือสัตตบุรุษ ใครคืออสัตตบุรุษ คนแบบไหนควรคบคนแบบไหนไม่ควรคบ […]