คุยสบาย ๆ เรื่องกิน
ดิฉันนั่งนึกว่ากลางวันนี้จะไปกินอะไรดีระหว่างเสต็กกับอาหารที่ศูนย์อาหาร ในห้างฯ
นึกไปนึกมาก็คิดว่า “ทำไมเดี๋ยวนี้มันยุ่งยากนักวะ ตอนเด็ก ๆ ก็แค่เดินไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊ใกล้ๆ บ้านนี่
หรือไม่ก็ซื้อก๋วยจั๊บรถเข็นกิน หรือไม่ก็ขนมจีนแกงไก่ที่แม่ค้าหาบมาขายหน้าบ้าน
โอ้….กาลเวลามันทำให้การกินการอยู่ของดิฉัน(และอาจจะชาวกรุงเทพฯอีกหลายคน )
เปลี่ยนไปมากขนาดนี้เลยหรือ?
ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน เย็นลงก็จะได้ยินเสียงตำน้ำพริกที่บ้าน และบ้านใกล้เคียง
อา…..มันช่างเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นจริง ๆ สมัยนั้นจำได้ว่ายังไม่มีตู้เย็น จะทำกับข้าวทีก็ต้องออกไปซื้อผักหญ้า หมู หมา กาไก่ กันที่ตลาด หรือไม่ก็ร้านขายของชำใกล้ ๆ บ้าน มาทำกันสด ๆ ร้อนๆ ในมื้อนั้น
ซึ่งคนสมัยนี้อาจรู้สึกว่า พระเจ้าจอร์ช! มันยุ่งยากมากเลย แต่แม่บ้านสมัยนั้นไม่ได้รู้สึกถึงความยุ่งยากอะไรเลย เพราะแม่บ้านสมัยก่อนไม่เล่นเฟสบุ๊ค ไม่เล่นไลน์ ทีวีก็ไม่มีให้ดูตลอด 24 ชั่วโมง จึงมีเวลาว่างกันมาก ไม่เหมือนสมัยนี้ พอใกล้มื้อกลางวัน บางทีต้องอัพบล็อกก่อน แล้วเข้าไลน์ ไหนจะโพสต์รูปลงเฟสบุ๊คอีก เฮ้อ! จะเที่ยงแว้วค่ะ แล้วก็ต้องออกไปกินข้าวนอกบ้านตามเคย
เมื่อก่อนตอนมื้อกลางวันดิฉันจะออกไปกินก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวผัดที่ร้านใกล้ ๆบ้าน น้ำแข็งเปล่าฟรี บางวันก็ซื้อก๋วยจั๊บ ซาลาเปา เกี๊ยวเคาะก๊อก ๆ รถเข็น ขนมจีนแกงเขียวหวาน ซึ่งหาบมาขายหน้าบ้าน ซึ่งพอจะไว้ใจได้ในความสะอาด เพราะขายประจำ แม่ค้าบางคนก็อยู่แถวบ้านนี่แหละ และรถราสมัยนั้นยังไม่ขวักไขว่เหมือนสมัยนี้
ส่วนขนมหวานเราจะกินกันกะร่อยกะหริบ ขนมเค้กก็ไม่มีขาย มีเพียงขนมไทยพวกบ้าบิ่น สังขยาฟักทอง ขนมเปียปูน ขนมกล้วย ขนมใส่ไส้ ที่ขายตรงหัวมุมถนนร้านเดียว และมีร้านกล้วยทอดเพิงหมาแหงนของยายแก่ ๆ คนหนึ่ง ผิดกับสมัยนี้ที่มองไปทางไหนก็เจอแต่ของหวานเต็มไปหมด แม้แต่อาหารคาวก็ยังหวานเจื้อยแจ้ว
เวลาที่เราออกไปเที่ยว ไปดูหนัง ก็กินก๋วยเตี๋ยวรถเข็นที่ขายอยู่ด้านหลังโรงหนัง ไม่ได้กินของแพง ๆ จานละร้อยสองร้อยเหมือนสมัยนี้
เดี๋ยวนี้คำว่า “น้ำแข็งเปล่าฟรี” คงไม่มีอีกแล้ว ถึงจะมีก็น้อยมาก อาหารรถเข็นหรือที่แม่ค้าหาบมาขายอาจไม่น่าไว้วางใจเหมือนสมัยก่อนแล้วเพราะอาจไม่พิถีพิพิถันในการปรุง และมลพิษจากควันรถและฝุ่นตามท้องถนน อาหารสมัยนี้ก็ประดังประเดกันแต่ผงชูรส รสชาติของข้าวแกงก็ไม่อร่อยเหมือนเก่าก่อน โดยเฉพาะแกงเผ็ดก็ใช้เครื่องแกงสำเร็จรูป ใส่น้ำมันแทนกะทิ
กลางวันนี้ดิฉันจะไปกินข้าวที่ไหนดี คงไมทำกับข้าวแน่ เพราะยังอัพบล็อกไม่เสร็จ 555 จะไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านใกล้ ๆ บ้านเหมือนเมื่อก่อนคงไม่ไหวเพราะมันร้อนมาก ดูปากดิฉันนะคะ”มันร้อนมากกกกก” น้ำก๋วยเตี๋ยวก็เค็ม ไปกินร้านข้าวแกงก็ไม่ไหวร้านอยู่ริมถนน ทั้งควันรถทั้งฝุ่นคงลงไปในอาหารกันตรึม ไปกินเคเอฟซีก็ดูสะอาดหน่อยและไม่แพงมากนัก
ส่วนมื้ออื่น ๆ ถ้ามีเวลาก็คงทำกินเอง ดิฉันคิดว่าอาหารที่เราทำเองกับมือสดสะอาด ได้คุณค่า ดีต่อสุขภาพ ที่สำคัญคือเราไม่ใส่ผงชูรส บางทีออกไปกินข้างนอกตามร้านอาหารหรือภัตตาคาร กลับมาก็คอแห้ง รู้เลยอะว่าอาหารใส่ผงชูรส แล้วมื้อกลางวันนี้คุณออกไปทานที่ไหนกันบ้างคะ?
*****************************