เด็กเอ๋ย …เด็กน้อย
. เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ฉันเข้าไปสอนหนังสือเด็กๆที่บางซื่อเหมือนเคย แต่ไปถึงสายนิดหน่อย 9 โมงครึ่ง เด็กๆคงเริ่มเรียนไปแล้ว ฉันลงจากรถแล้วรีบเดินเข้าซอยอย่างรวดเร็ว ใกล้ถึงโรงเรียนแล้วปกติจะต้องได้ยินเสียงเด็กๆดังเจื้อยแจ้วแล้วนะ วันนี้ทำไมเงียบจัง หรือวันนี้งดเรียนนะ พอฉันเดินไปถึงก็เห็นว่าทั้งเด็ก และครูอาสาบางตาจนดูโหลงเหลง
กวาดตามองไปรอบๆ เห็นครูกอล์ฟ เพื่อนครูอาสาด้วยกันก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะปกติ ครูกอล์ฟจะมาถึงประมาณ 10 โมงเป็นประจำ สอบถามได้ความว่า วันนี้ครูปู่ไปธุระต่างจังหวัด (ถ้าฉันจำไม่ผิด ครูปู่น่าจะไปโรงเรียนของอ.พิภพ ที่กาญจนบุรี) ครูอาสาอีกหลายคนก็ติดงานกัน พี่หนุ่มเลยต้องใช้วิธีส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากครูอาสาที่ค่อนข้างคุ้นเคยให้มาช่วยแต่เช้า ส่วนเด็กๆนี่ยิ่งบางตาจนเห็นได้ชัด คงเพราะเริ่มปิดเทอมกันแล้ว คนที่บ้านอยู่ต่างจังหวัดคงเริ่มทะยอยเดินทางกลับกันบ้างแล้ว หรือว่ามีการ์ตูนหรือหนังจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องใหม่กันนะ
ฉันเดินไปหาเด็กๆ ป.6 ซึ่งวันนี้มากันแค่ 4 คน ฟิว เฟิร์น ปิ่น ขวด กำลังทำชีทเลขที่ครูกอล์ฟมอบหมายอยู่ งั้นวันนี้สอนเลขเลยก็แล้วกัน นั่งเรียนกันไป คุยกันไป ถามไถ่ว่าหายไปไหนกันหมด ขวดบอกว่าวันนี้บางคนไปสมัครสอบเข้า ม. 1 กัน ฟิวก็จะไปตอนบ่ายนี้ บางคนก็ไปวันอาทิตย์ ส่วนใหญ่จะสอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนสามเสน เพราะอยู่ใกล้บ้าน แต่สำหรับบางคนอย่างเช่นเฟิร์น กับออม ไปสมัครสอบที่โรงเรียนแถวเขตดุสิต ด้วยเหตุผลที่ฉันเองรู้สึกว่าไม่ใช่เหตุผลที่ดีเท่าไหร่ คือไม่ต้องตัดผมสั้น ถ้าเรียนที่สามเสนต้องตัดผมสั้นตอนอยู่ม.ต้น
ฉันเองก็ไม่รู้จะแนะนำอย่างไรดีเพราะไม่รู้จักทั้ง 2 โรงเรียน ไม่รู้ว่าที่ไหนดีกว่ากัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคงอยู่ที่ตัวเด็กเอง ถึงจะได้เข้าเรียนในโรงเรียนดีๆ แต่เกเร ไม่ตั้งใจเรียนก็คงไร้ประโยชน์อยู่ดี สำหรับฉันแล้วแค่เด็กๆคิดที่จะเรียนต่อก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่เหมือนกัน
หลังจากที่เด็กๆทำชีทและเฉลยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพิ่งจะ 11โมงเอง แต่หิวข้าวแล้วสิก็ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา ฉันบอกเด็กๆว่า ครูยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยหิวแล้วเนี่ย เจ้าฟิวบอกว่า “หนูก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน” แล้วเราก็ประชุมลับกันเพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนนี่นา พวกเราจะออกไปกินก๋วยเตี๋ยวที่หน้าปากซอยกัน (เอาน่า วันนี้ครูปู่ก็ไม่อยู่ ขอพาเด็กๆเกเรซักวันละกันนะ) หลังจากนั้นค่อยกลับมาเล่นเกมส์กันตามคำเรียกร้องของเด็กๆ ตกลงกันว่าเดี๋ยวเราค่อยๆเดินออกไป มีกันไม่กี่คนคงไม่เป็นที่สังเกตุ แต่ถ้าใครถามก็บอกว่าเราจะไปเก็บขยะกัน เพราะฉันเคยพาเด็กๆเดินเก็บขยะในชุมชนอยู่บ่อยครั้ง
เดินออกมาจนเลยโต๊ะเรียนสุดท้ายแล้วโดยไม่มีใครถาม เราหันหน้ามายิ้มให้กัน แต่แล้วก็พลันต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียง “ครูไปไหน” ฉันหันหลังกลับไปหาเจ้าของเสียงตัวน้อย “หมูหยอง” นั่นเอง เด็กน้อยช่างพูด หน้าตาน่ารักวัยประมาณ 4 ขวบ ฉันตอบไปว่า “ครูจะไปเก็บขยะ หมูหยองจะไปเหรอ” “ไปด้วย” แล้วเดินมาจับมือฉัน ไปก็ไป ตกลงเราพาเจ้าตัวเล็กไปด้วยละกัน
หมูหยอง
ถึงร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอย เป็นรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เราเลือกนั่งกันที่โต๊ะใต้ต้นไม้ ฉันบอกให้เด็กๆสั่งก๋วยเตี๋ยวกันได้เลย หมูหยองสั่งเป็นคนแรก “เอาเส้นหมี่ ลูกชิ้นจัมโบ้” แล้วยื่นซองปาปริก้าในมือส่งให้ฉัน บอกว่าไม่เอาแล้ว ฟิวเดินไปสั่งให้น้องก่อน แล้วจึงสั่งของตัวเอง ฉันตัดสินใจไม่สั่งดีกว่า ดูท่าแล้วเจ้าหมูหยองกินไม่หมดแน่นอน
ก๋วยเตี๋ยวของหมูหยองได้แล้ว ฉันขอชามเปล่ากับช้อน มาตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆให้หมูหยองตักกินเอง ก๋วยเตี๋ยวของคนอื่นๆทะยอยมาวางบนโต๊ะ ของฟิวได้เป็นคนสุดท้าย ฟิวมองชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าแล้วทำหน้าเจื่อนๆ หันมาบอกฉันว่า ของหนูเยอะมากมีเนื้อด้วย สงสัยพิเศษแน่เลยครู ฉันหันไปยิ้มแล้วบอกว่า ไม่เป็นไรหนูกินให้หมดแล้วกัน
ทุกคนลงมือจัดการกับก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย แต่เจ้าหมูหยองสิ ทำท่าจะกินไม่หมดอย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย ทั้งที่แบ่งให้นิดเดียวเอง “ใครกินไม่หมดล้างจาน” ฉันเอ่ยขึ้น พร้อมเสียงสนับสนุนจากเด็กคนอื่นๆ หมูหยองหันไปกินต่อจนหมด (ได้ผลแฮะ เด็กๆนี่หลอกง่ายจริงๆเลย) ฉันเดินไปจ่ายเงินเมื่อเด็กๆอิ่มกันหมด แล้วพากันเดินกลับห้องเรียน
เด็กๆเดินนำหน้ากันเข้าไป ฉันเดินจูงหมูหยองเดินรั้งท้ายแถว ฟิวหันมาบอกหมูหยองว่า “อย่าไปบอกใครนะว่าไปกินก๋วยเตี๋ยวมา ใครถามบอกว่าไปเก็บขยะมานะรู้เปล่า” หมูหยองพยักหน้า แต่แล้วขณะกำลังเดินผ่านโต๊ะเด็ก ป. 1 ป. 2
“ครูไปไหนมา” เด็กคนหนึ่งถามขึ้น
“ไปเก็บขยะมาจ้ะ” ฉันหันไปตอบเจ้าของคำถาม
เจ้าหมูหยองหันมาทำหน้าพยักพเยิดกับฉันแล้วพูดเสียงดังเชียว “ไม่ได้ไปกินก๋วยเตี๋ยวมาเนอะ”
ฉันเดินอมยิ้มในความใสซื่อของเจ้าตัวน้อย แล้วรีบจูงมือเดินกลับไปที่ห้องก่อนจะพูดเยอะไปกว่านี้ ความเกือบแตกแล้วไหมล่ะ
เรากลับมาเล่นเกมส์กันอีกสักพักก็ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว เด็กๆขอตัวกลับบ้านไม่อยู่กินข้าวเพราะว่าอิ่มแล้ว ส่วนฟิวต้องไปเตรียมตัว เตรียมเอกสารไปสมัครสอบเข้าม.1 ตอนบ่าย ร่ำลากันเสร็จฉันก็ไปนั่งคุยกับเพื่อนๆครูอาสาอีกพักใหญ่กว่าก่อนจะแยกย้ายกันกลับ หันไปเห็นเจ้าหมูหยองวิ่งเล่นอยู่กับเพื่อน ยังนึกเอ็นดูในความน่ารักของจ้าตัวน้อย …เด็กหนอเด็ก ถึงจะแสนฉลาดยังไงก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี
พวกเราเป็นเด็กกำพร้ามาอาศัยอยูที่วัดโบสถ์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง อาศัยอยูประมาณ 300ชีวิต รอความช่วยเหลือ ยังขาดแคลนข้าวสารอาหารแห้ง ติดต่อสอบถาม 0817133557
เก่งนะ เข้ากับเด็กๆได้ดี พี่เป็นพวกเข้ากับเด็กๆไม่ได้น่ะ (เกลียดเด็ก เพราะไม่ใช่นางงาม (มุกเก่าโคตรรรร))
อยู่กับเด็กๆที่ใสซื่อ เราก็จะสดใสตามครับ
ครูปู่สบายดีค่ะพี่ชาลี แข็งแรงมากด้วยค่ะ
ว่างไปสอนกันมั๊ยคะพี่ชาลี
เด็กใสซื่อบริสุทธิ์…ค่ะน้องเจี๊ยบ
ทีหลังอย่าให้เด็กเก็บความลับ คิคิ
——————————————-
ครูปู่สบายดีมั้ยคะยังแข๊งแรงดีอยู่รึเปล่าคะน้องเจี๊ยบ
🙂
อื่ม มีลูกศิษย์ตัวน้อยน่ารักแบบนี้เอง คุณครูถึงมีกำลังใจ อาสาไปสอนให้
นับถือน้ำใจอาสาเสียสละ ของน้องเจี๊ยบ และเพื่อน ๆ ครูอาสาจริงๆ ค่ะ
🙂
เด็กโกหกไม่เป็น…
ครั้งแรกที่เด็กโกหกจึงเป็นการเรียนรู้มาจากผู้ใหญ่ผสมผสานกับสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์…
น่ารักทั้งบทความและความใสซื่อของหมูหยองครับ 🙂